ปางที่ ๓๗ |
ปางที่ ๓๗
สึดนอสึดนอ
ภาคนิรมาณกาย.....กาณะมารเทพราช (สั่งสอนเหล่าทวยเทพอย่าให้ร้ายมนุษย์)
คำแปล.....สึดนอสึดนอ เป็นมหาสติ หมายถึงมีจิตสงบจากอกุศล ตั้งมั่นและสามารถประจักษ์สภาวะธรรมตามความเป็นจริงของสิ่งที่ปรากฏขณะนี้ (ปัญญาขั้นสูง)
อรรถะว่า.....ในสังคมมนุษย์ย่อมมีทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่วคละกันอยู่ ในเหล่าเทพและเทวดาก็เช่นกัน เทวดาที่ตั้งตนอยู่ในศีลในธรรมก็มี และที่ถูกฝ่ายอธรรมเข้าครอบงำ ก็มีปะปนกันอยู่ ผู้ปฏิบัติมีความเข้าใจรู้แจ้งตามความเป็นจริงของลักษณะสภาพธรรม ที่ปรากฏขณะนี้ ก็เป็นปัญญาซึ่งจะเป็นพื้นฐาน ในการที่จะนำธรรมะมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ชีวิตและจิตใจก็จะแช่มชื่น หากยังมีจิตใจที่เต็มไปด้วยโลภะ โทสะ โมหะ ครอบงำอยู่ ก็ไม่สามารถที่จะพบกับความแช่มชื่น และความมั่นคงของจิตได้เลย
ปางที่ ๓๘
ปางที่ ๓๘ |
ออลาซัน ฟูลาแซลี
ภาคนิรมาณกาย.....พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระหัตถ์ข้างขวาทรงธนูและคันศร พระหัตถ์ข้างซ้ายถือ โล่กำบัง
คำแปล......ออลาซัน แปลว่า การเข้าถึงธรรม มีความเป็นอิสระในธรรม.....ฟูลาแซลี แปลว่า การได้พระธรรมกายอันบริสุทธิ์ และเข้าถึงพระรัตนตรัย
อรรถว่า.....การศึกษาและปฏิบัติธรรมนั้น ไม่ควรที่จะติดข้องอยู่ในธรรม แต่ก็ใช่ว่าจะละทิ้งธรรม จุดมุ่งหมายสูงสุดของการปฏิบัติธรรม คือเข้าถึงความสงบจากความติดข้อง ความยึดมั่นถือมั่น อันเป็นความสงบที่ประกอบด้วยปัญญา รู้ตามความเป็นจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏ การปฏิบัติเช่นนี้จึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงธรรมอันเลิศ จิตมีความเป็นอิสระจากกิเลสทั้งปวง จึงจะสามารถบรรลุพระธรรมขั้นสูงสุดได้ เป็นพระอริยบุคคลตามระดับของปัญญาแต่ละขั้นได้
ปางที่ ๓๙
ฮัวซอฮัวซัน
ปางที่ ๓๙ |
ภาคนิรมาณกาย.....จอมทัพสุวรรณมงกุฏภูมิ ถือกระดิ่งทอง มีหน้าที่ประกาศธรรมตามกาล ที่เหมาะสม เพื่อโปรดสัตว์โลกทั่วไป
คำแปล.....ฮัวซอฮัวซัน แปลว่า การอนุโมทนาตามเหตุปัจจัย.....ฮัวซอ หมายถึง ผู้ที่อยู่ในธรรมตั้งอยู่ในขันติธรรม....ฮัวซัน หมายถึง ผู้บรรลุธรรมมีความสุขอันแท้จริง
อรรถว่า.....พระโพธิสัตว์ทรงกล่าวด้วยความเมตตาว่า "ความสุขที่แท้จริง จะต้องได้มาจากการปฏิบัติที่ยากลำบาก ถ้าสามารถอดทนต่อความยากลำบาก ก็จะสามารถเข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้ การอดทนของสรรพสัตว์ทั้งหลายนั้น มิใช่เพียงแค่อดทนต่อความอดอยาก ความหิว ความกระหายเท่านั้น จะต้องอดทนต่อความหวั่นไหวของจิตด้วย โทสะเกิด สติระลึกรู้รูปนาม ปัญญารู้ตามความเป็นจริงของรูปนามที่ปรากฏขณะนั้น ว่ารูปนามไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------