Translate

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ประวัติพระโพธิสัตว์กวนอิม



พระโพธิสัตว์กวนอิมหรือพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์ ในพระพุทธศาสนา ฝ่ายมหายาน
ซึ่งมีต้นกำเนิดจากพระสูตรมหายานในอินเดียและได้ผสมผสานกับความเชื่อของชนพื้นถิ่นดั้งเดิมของจีน คือ ตำนานเรื่องพระธิดาเมี่ยวซ่าน เป็นเหตุให้เกิดเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมในภาคสตรีขึ้น  เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความอ่อนโยนและมีจิตใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณาอย่างเด่นชัด ดุจเช่นดังความรักของมารดาที่มีต่อบุตร  ในสัทธรรมปุณฑริกสูตรได้อธิบายไว้ว่า  พระอวโลกิเตศวรทรงสามารถนิรมานกายแบ่งเป็นปางต่าง ๆ เพื่อโปรดสรรพสัตว์ได้ทั้งภาคบุรุษและภาคสตรี  ความเลื่อมใสศรัทธาในพระโพธิสัตว์กวนอิมได้แพร่ไปยังหลายประเทศ เช่น ธิเบต จีนและญี่ปุ่น  ลักษณะองค์ของท่านก็จะมีการสร้างขึ้นให้ผสมผสานให้กลมกลืนกับเทพในท้องถิ่นนั้น ๆ

พระโพธิสัตว์กวนอิม (ตำนานจีน)

พระโพธิสัตว์กวนอิม ประสูติ 19 เดือนยี่จีน ชาติสุดท้ายเป็น พระธิดานาม  "เมี่ยวซ่าน"  เดิมเป็นเทพธิดา ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อที่จะมาช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ให้แก่สรรพสัตว์  เป็นพระธิดาองค์สุดท้ายของกษัตริย์นามว่า "เมี่ยวจวง"  พระองค์มีพระธิดาทั้งหมด 3 องค์  ชื่อ เมี่ยวอิม  เมี่ยวหยวน  เมี่ยวซ่าน   พระธิดาเมี่ยวซ่านนั้นในเยาว์วัยเป็นพุทธมามกะ  รู้แจ้งในหลักธรรมลึกซึ้ง มีจิตแน่วแน่ที่จะบำเพ็ญภาวนา เพื่อความหลุดพ้นจากสังสารวัฎ ได้ออกบวชวันที่ 19 เดือน 9  พระบิดาไม่ทรงเห็นด้วยที่พระธิดาเมี่ยวซ่านออกบวช  พระองค์ต้องการจะให้มีคู่ครอง เพื่อจะได้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป  แต่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านไม่สนพระทัยในเรื่องทางโลกธรรมเลย  แม้ว่าจะถูกพระบิดาดุด่าอย่างไรก็ตาม  เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านก็มิได้มีความโกรธเคืองพระบิดาแม้แต่อย่างใด

ในกาลต่อมา เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านได้ถูกทำโทษ ถูกขับให้ทำงานหนักในสวนดอกไม้  เช่น หาบน้ำ ปลูกดอกไม้ ทั้งนี้เพื่อที่ว่า  การทรมานมาก ๆ   จะทำให้เจ้าหญิงเปลี่ยนความตั้งใจ  แต่เจ้าหญิงก็มิได้มีความลำบากแม้แต่น้อย  เพราะเหตุว่าได้มีเหล่ารุกขเทวดามาช่วยทำงานแทนให้ทั้งหมด  พระบิดาเห็นว่าไม่ได้ผลดั่งใจ  จึงรับสั่งให้หัวหน้าแม่ชี นำองค์หญิงเมี่ยวซ่านไปอยู่ที่วัดนกยูงขาว และให้เอางานของแม่ชีทั้งวัดมอบให้องค์หญิงทำคนเดียว  แต่ท่านก็มีพระทัยเด็ดเดี่ยว ไม่เกี่ยงงานการต่าง ๆ  เหล่าเทพารักษ์ก็ได้มาช่วยทำงานแทนอีก  พระเจ้าเมี่ยวจวงเข้าพระทัยว่า  พวกแม่ชีไม่กล้าเคี่ยวเข็ญใช้งานหนัก  จึงยิ่ง
ทรงกริ้มหนักขึ้น  จึงสั่งให้ทหารเผาวัดนกยูงขาวจนวอดเป็นจุณไป พร้อมกับพวกแม่ชีทั้งวัด มีแต่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านองค์เดียวเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้

พระเจ้าเมี่ยวจวงทรงทราบเรื่องดังนั้น  จึงรับสั่งให้นำตัวพระธิดาเมี่ยวซ่านไปประหารชีวิต  เทพารักษ์คอยคุ้มครองเจ้าอยู่ ได้เนรมิตทองทิพย์เป็นเกราะห่อหุ้มตัว ทำให้คมดาบของนายทหารไม่อาจระคายพระวรกายได้ ดาบหักถึง 3 ครั้ง 3 ครา  พระบิดาทรงกริ้วยิ่งนัก โดยเข้าพระทัยว่านายทหารไม่กล้าประหารเจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน  จึงให้ประหารนายทหารแทน แล้วรับสั่งให้จับเจ้าหญิงไปแขวนคอ ทว่าผ้าแพร่ที่แขวนคอก็ขาดสะบั้นลงอีก  ทันใดนั้น ปรากฏมีเสือเทวดาตัวหนึ่ง ได้นำเจ้าหญิงขึ้นพาดหลัง  แล้วเผ่นหนึไปที่เขาเซียงซัน  ต่อมา เทพไท่ไป่ได้แปลงกายเป็นชายชรา มาโปรดเจ้าหญิงและชี้แนะเคล็ดวิธีการบำเพ็ญเพียรเพื่อความดับทุกข์  จนเจ้าหญิงสามารถบรรลุมรรคผล  ทรงบรรลุธรรม เมื่อวันที่ 19 เดือน 6

ด้านฝ่ายพระบิดาได้เข้าพระทัยว่า เจ้าหญิงถูกเสือคาบไปกินเสียแล้ว จึงไม่ได้ติดใจที่จะตามราวีอีกต่อไป  ในกาลต่อมาไม่นานนัก  บาปกรรมที่พระเจ้าเมี่ยวจวงได้ก่อไว้ส่งผล  เกิดป่วยด้วยโรคร้ายแรง ไม่มียารักษาให้หายได้  เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านได้ทรงทราบด้วยญาณวิถีว่า  พระบิดากำลังประสบเคราะห์กรรมอย่างหนัก  ด้วยกตัญญูกตเวทีเป็นเลิศ  พระองค์มิได้ถือโทษโกรธในการกระทำของพระบิดาแม้แต่น้อย  ทรงสละดวงตาและพระกรคืน  เคยแสดงปาฏิหาริย์เป็นปางกวนอิมพันมือ องค์หญิงเมี่ยวซ่านนั้น  ตอนแรกเป็นชาวพุทธ  ภายหลังเทพไท่ไป่ได้มาโปรด ชี้แนะหนทางดับทุกข์ให้  ด้วยเหตุนี้พระโพธิสัตว์กวนอิม จึงเป็นเทพทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายเต๋าในเวลาเดียวกัน

                                                           
                                         
                                                         นะโม กวนซีอิม ผ่อสัก


                                               .....................................................