Translate

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พระคาถามหากรุณาธารณีสูตร (ตอน ๒)


ปางที่ ๔ 
ผู่ที  สัตตอ  ผ่อเย
                       
                      
ปางที่ ๔

  หมายความว่า  ขอนอบน้อมคารวะ  ต่อท่านผู้ให้ความรู้แจ้งแก่สรรพสัตว์  พระองค์ได้ทรงตักเตือนสัตว์โลกทั้งหลาย  ให้ตื่นจากการหลงมัวเมาอยู่กับกามคุณ ๕  อันมีอวิชชาคือความไม่รู้ตามความเป็นจริง ให้พากันหันมาสู่ทางแห่งความดับทุกข์  อันคือมรรคเป็นเส้นทางสู่ธารณี  ตั้งมั่นในพระธรรม แล้วน้อมเข้ามาใส่ตน  เห็นความสว่างในสภาะเดิม อันนำมาซึ่งความหลุดพ้น

..............................................................................................................................................


ปางที่ ๕
หม่อฮอ  สัตตอ  ผ่อเย
                    
                     

ปางที่ ๕


 หมายความว่า   เมื่อได้น้อมคารวะต่อผู้กล้าหาญ  ก็จะมีโอกาสที่จะหลุดพ้นได้  ท่านทั้งหลายผู้อยู่ในโลกอันกว้างใหญ่นี้ ถ้าระลึกรู้ตัวแล้วลงมือปฏิบัติ  ก็จะถึงความหลุดพ้นได้  พระโพธิสัตว์เป็นผู้เปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณา ทรงเกรงว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังตกอยู่ใต้อำนาจของอินทรีย์ ๖ ถูกอารมณ์ทั้ง ๗ ครอบงำอยู่ และยังละทิ้งมูลสัจธรรมของตน จึงต้องเวียนเกิดเวียนตายไม่สิ้นสุด
                       พระองค์ทรงได้ประกาศมนต์มหากรุณาธาณีสูตรนี้   ผู้ใดสามารถปฏิบัติและยึดมั่นอยู่ใน
อนุตตรมรรคนี้  ย่อมสามารถที่จะข้ามพ้นห้อวงโอฆะ และสามารถพบความสุขอันเป็นนิรันดร์ได้

........................................................................................................................................................

ปางที่ ๖
หม่อฮอ  เกียลู  หมี่เกียเย
                 
                   

ปางที่ ๖

  หมายความว่า   ขอนอบน้อมคารวะ  ต่อท่านผู้มีมหาการุณาจิต  เมื่อเพ่งโลกเป็นความว่าง  ความทุกข์ก็จะดับไปเอง  สามารถข้ามห้วงแห่งโอฆะได้นี้  พระองคฺได้เตือนแก่ผู้ปฏิบัติธรรม  ให้ปล่อยวางกายและใจ  ให้หลีกพ้นจากภาพลวงทั้งหลาย ไม่มีตัวตน บุคคล สัตว์ เราเขา คือความเป็นอนัตตา  ความเป็นอิสระ บำเพ็ญประโชนย์เพื่อบุคคลอื่นและสรรพสัตว์  ขณะเดียวกันต้องชำระจิตใจให้ขาวสะอาด ผ่องใส จนกระทั่งเกิดเป็นอุปนิสัย ย่อมสามารถบรรลุต้นทางแห่งองค์มรรคได้

.................................................................................................................................................