Translate

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

พระคาถามหากรุณาธารณีสูตร (ตอน ๖)

ปางที่ ๑๗
มอฮัวเตอเตา

ปางที่ ๑๗

ภาคนิรมาณกาย...พระองค์ได้นิรมาณกายเป็นปกุนตาลี มือขวาถือจักรมือซ้ายถือบวงบาศก์เป็นอาวุธ มีดวงตา ๓ ดวง

คำแปล...."มอฮัวเตอเตา"  แปลว่า ปัญญาเป็นเครื่องดับกิเลส

อรรถว่า.....พระธรรมกายปางนี้  มีหน้าที่คอยตักเตือนให้ผู้ปฏิบัติถือพระสัทธรรมเป็นความว่างเปล่า ไม่ยึดมั่นในรูป ไม่ยึดในจิตหรือนาม  ถือเอาพระสัทธรรมเป็นใหญ่  ละความวิตกกังวล ละความสงสัย (วิจิกิจฉา)ในพระสัทธรรม ขจัดกิเลสทั้งปวง โดยใช้ปัญญาประหารกิเลส จิตมีความสงบก็จะอยู่บนโลกได้อย่างมีความสุข

.........................................................................................................................................

ปางที่  ๑๘
ตันจิตทอ
ปางที่ ๑๘

ภาคนิรมาณกาย....พระองค์ได้นริมาณกายเป็นพระอรหันต์

คำแปล...."ตันจิตทอ"  แปลว่า  เป็นนามของพระโพธิสัตว์ทรงมีมหากรุณาจิต  มนต์คาถา พีชะ ปัญญาจักษุ เป็นทางแห่งการเข้าถึงพระธรรมต่าง ๆ

อรรถว่า.....ความศรัทธาแน่วแน่ตั้งมั่นอย่างต่อเนื่อง จะยังผลให้จิตมีความเห็นตรงตามหลักแห่งพระธรรม   จิตไม่คิดไปในทางโลกอันเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งกับพระธรรม ซึ่งจะทำให้จิตไม่สามารถเป็นสุขได้

...........................................................................................................................................

ปางที่ ๑๙
งัน ออผ่อลูซี

ปางที่ ๑๙
ภาคนิรมาณกาย.....พระโพธิสัตว์ทรงนิรมาณกาย  ประทับนั่งพนมมืออยู่ระหว่างทรวงอก  พระเนตรฉายแสงแห่งพระมหาเมตตากรุณาอย่างเปี่ยมล้น ทรงประทานความสุขและปลดเปลื้องความทุกข์ ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย

คำแปล....."งัน "  แปลว่า   โอม หมายถึงนอบน้อมเป็นบทนำ...."ออผ่อลูซี"   แปลว่า   เป็นพระโพธิสัตว์...... และพระธรรมคือ เครื่องกำจัดทุกข์  เป็นเครื่องขัดเกลาจิตใจให้สะอาดหมดจด บริสุทธิ์ไร้ราคะ

อรรถว่า....ผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องมีจิตใจที่ตั้งมั่นแน่วแน่  ไม่หวั่นไหวต่อการกลั่นแกล้งของหมู่มารที่คอยขัดขวางการทำความดี  (มารในที่นี้หมายถึง "กิเลส"ทั้งปวง) ให้พยายามสำรวมกาย วาจา ใจ  ไม่ยึดติดในโลกียวิสัยทั้งสิ้น  ย่อมจะเข้าสู่สภาวะดั้งเดิมของจิตตามธรรมชาติ  มีความสงบอยู่ทุกขณะ ทุกอิริยาบถ เพียรเจริญอยู่เนื่อง ๆ  ก็จะสามารถถึงความสำเร็จในพระอริยสัจจธรรมได้โดยไม่รู้ตัว   พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย  พระองค์ได้ทรงหลุดพ้นจากกิเลส  ก็ในขณะที่ทรงอยู่บนโลกมนุษย์อันเต็มไปด้วยกิเลสมากมาย

............................................................................................................................................

ปางที่ ๒๐
ลูเกียตี

ปางที่ ๒๐
ภาคนิรมาณกาย.....พระองค์ทรงนิรมาณกาย  เป็นพระมหาพรหมเทพราช

คำแปล....."ลูเกียตี"  แปลว่า  มีความเป็นอิสระ  เป็นโลกนาถ มีกุศลจิตเป็นจิตที่บริสุทธิ์ ไม่มัวหมอง มีรัศมีรอบกาย  และสามารถกลมกลืนกับดินฟ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

อรรถว่า....พระโพธิสัตว์ตักเตือนสรรพสัตว์ทั้งหลาย  ให้รักษากุศลจิตไว้ อย่าทำลายตนเอง ให้ระมัดระวังกายและจิตขณะที่สาธยายมนตราอยู่  ผู้ปฏิบัติจะต้องไม่่หลงผิดเป็นชอบ มีสติคุ้มครองใจเสมอ

.............................................................................................................................................