ปางที่ ๑๗
มอฮัวเตอเตาปางที่ ๑๗ |
ภาคนิรมาณกาย...พระองค์ได้นิรมาณกายเป็นปกุนตาลี มือขวาถือจักรมือซ้ายถือบวงบาศก์เป็นอาวุธ มีดวงตา ๓ ดวง
คำแปล...."มอฮัวเตอเตา" แปลว่า ปัญญาเป็นเครื่องดับกิเลส
อรรถว่า.....พระธรรมกายปางนี้ มีหน้าที่คอยตักเตือนให้ผู้ปฏิบัติถือพระสัทธรรมเป็นความว่างเปล่า ไม่ยึดมั่นในรูป ไม่ยึดในจิตหรือนาม ถือเอาพระสัทธรรมเป็นใหญ่ ละความวิตกกังวล ละความสงสัย (วิจิกิจฉา)ในพระสัทธรรม ขจัดกิเลสทั้งปวง โดยใช้ปัญญาประหารกิเลส จิตมีความสงบก็จะอยู่บนโลกได้อย่างมีความสุข
.........................................................................................................................................
ปางที่ ๑๘
ตันจิตทอ
ปางที่ ๑๘ |
ภาคนิรมาณกาย....พระองค์ได้นริมาณกายเป็นพระอรหันต์
คำแปล...."ตันจิตทอ" แปลว่า เป็นนามของพระโพธิสัตว์ทรงมีมหากรุณาจิต มนต์คาถา พีชะ ปัญญาจักษุ เป็นทางแห่งการเข้าถึงพระธรรมต่าง ๆ
อรรถว่า.....ความศรัทธาแน่วแน่ตั้งมั่นอย่างต่อเนื่อง จะยังผลให้จิตมีความเห็นตรงตามหลักแห่งพระธรรม จิตไม่คิดไปในทางโลกอันเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งกับพระธรรม ซึ่งจะทำให้จิตไม่สามารถเป็นสุขได้
...........................................................................................................................................
ปางที่ ๑๙
งัน ออผ่อลูซี
ปางที่ ๑๙ |
คำแปล....."งัน " แปลว่า โอม หมายถึงนอบน้อมเป็นบทนำ...."ออผ่อลูซี" แปลว่า เป็นพระโพธิสัตว์...... และพระธรรมคือ เครื่องกำจัดทุกข์ เป็นเครื่องขัดเกลาจิตใจให้สะอาดหมดจด บริสุทธิ์ไร้ราคะ
อรรถว่า....ผู้ปฏิบัติธรรมจะต้องมีจิตใจที่ตั้งมั่นแน่วแน่ ไม่หวั่นไหวต่อการกลั่นแกล้งของหมู่มารที่คอยขัดขวางการทำความดี (มารในที่นี้หมายถึง "กิเลส"ทั้งปวง) ให้พยายามสำรวมกาย วาจา ใจ ไม่ยึดติดในโลกียวิสัยทั้งสิ้น ย่อมจะเข้าสู่สภาวะดั้งเดิมของจิตตามธรรมชาติ มีความสงบอยู่ทุกขณะ ทุกอิริยาบถ เพียรเจริญอยู่เนื่อง ๆ ก็จะสามารถถึงความสำเร็จในพระอริยสัจจธรรมได้โดยไม่รู้ตัว พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย พระองค์ได้ทรงหลุดพ้นจากกิเลส ก็ในขณะที่ทรงอยู่บนโลกมนุษย์อันเต็มไปด้วยกิเลสมากมาย
............................................................................................................................................
ปางที่ ๒๐
ลูเกียตี
ปางที่ ๒๐ |
คำแปล....."ลูเกียตี" แปลว่า มีความเป็นอิสระ เป็นโลกนาถ มีกุศลจิตเป็นจิตที่บริสุทธิ์ ไม่มัวหมอง มีรัศมีรอบกาย และสามารถกลมกลืนกับดินฟ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
อรรถว่า....พระโพธิสัตว์ตักเตือนสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้รักษากุศลจิตไว้ อย่าทำลายตนเอง ให้ระมัดระวังกายและจิตขณะที่สาธยายมนตราอยู่ ผู้ปฏิบัติจะต้องไม่่หลงผิดเป็นชอบ มีสติคุ้มครองใจเสมอ
.............................................................................................................................................