นะโม กวนซีอิม ผ่อสัก |
พระแม่พันมือโปรดและปราบมาร
สวัสดีค่ะ ท่านผู้ศรัทธาในพระแม่กวนอิมทุกท่าน....นานทีเดียวที่ฉันไม่ได้เขียนเล่าเรื่องประสบการณ์ เกี่ยวกับพระแม่ให้ท่านได้อ่านกันอีก....โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ของพระแม่พันมือมีเรื่องตื่นเต้นเยอะแยะมาก ท่านแม่น่ารักที่สุดเลยจ๊ะ ตั้งแต่ที่ได้รู้จักท่าน...... ฉันคิดว่าบางท่านก็คงจะเคยได้ยิน หรือเคยได้สัมผัสเกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ หรือความอัศจรรย์เกี่ยวกับท่านแม่พันมือมาแล้ว แต่ละท่านคงมีประสบการณ์ แตกต่างกันไปตามเหตุตามปัจจัย เรื่องที่ฉันจะเล่าในวันนี้ คิดว่าคงไม่เหมือนใคร ฉันและครอบครัวก็เพิ่งจะได้รู้จักท่านแม่พันมือเป็นครั้งแรก เมื่อได้ประสบการณ์เองโดยตรง จึงทำให้เกิดความรักและศรัทธาในพระแม่โพธิสัตว์กวนอิมอย่างไม่มีความลังเลสงสัยเลยแม้แต่นิด ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีพระมหาเมตตา อย่างหาขอบเขตมิได้ ฉันได้สัมผัสปาฏิหาริย์พระแม่กวนอิมหลายปาง แต่ท่านแม่พันมือ เป็นปางแรกที่มาโปรดพวกเราทั้งครอบครัว และยังโปรดสมาชิกของสมาคมไทย-กวนอิม,สวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย การโปรดของท่านก็ไม่มีพิธีรีตรองอะไร ไม่ต้องมีพานดอกไม้ธูปเทียนหรือปัจจัยใด ๆ ทั้งนั้น ใครมีทุกข์มาหาที่สมาคม ท่านแม่ก็จะขจัดปัดเป่าคลายทุกข์ให้ แต่ท่านพูดอะไรเราไม่สามารถเข้าใจได้เพราะตอนนั้นยังไม่มีล่ามแปล ท่านไม่พูดภาษาไทย เราก็เดา ๆ เอา ถูกบ้างผิดบ้าง พอได้ฟังบ่อย ๆ ก็พอจะเข้าใจบางคำ บางครั้งท่านก็สอนให้พูดภาษาของท่าน เพื่อที่จะได้พูดกันรู้เรื่อง
เพื่อเป็นการเผยแพร่ พระบารมีของพระแม่กวนอิม ปางพันมือพันตา (พันเนตรพันกร) และเพื่อเป็นการแสดงมุทิตาคุณต่อครูบาอาจารย์ ฉันจึงได้ขออนุญาตท่านแม่ ว่าจะเขียนเรื่องปาฏิหาริย์เกี่ยวกับท่าน เพื่อให้ท่านผู้ศรัทธาหรือลูกศิษย์ ได้อ่านเป็นความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วย ทุกท่านก็คงจะทราบดีแล้วว่า.....พระโพธิสัตว์กวนอิมมีทั้งหมด ๘๔ ปาง ที่มีมากมายหลายปาง ก็เพราะเหตุว่า ท่านนิรมานกายให้เหมาะสมกับกิจการงาน ในการโปรดสรรพสัตว์ของท่าน..... พระแม่กวนอิมปางพันมือนับเป็นปางที่มีความพิเศษกว่าปางอื่น ๆ เพราะว่าท่านนิรมานกายมีดวงตามากมายถึง ๑,๐๐๐ ดวงและมีแขนจำนวน ๑,๐๐๐ แขน ไม่ธรรมดาเลยนะคะ มีรูปร่างหน้าตาสวยงามเป็นพิเศษ ท่านมีหน้าที่โปรดสัตว์โลกที่ประพฤติปฏิบัติดีเพื่อความพ้นทุกข์ ให้พ้นจากการเบียดเบียน ของสัตว์โลกฝ่ายอธรรม ซึ่งหมายถึงพวกมิจฉาทิฏฐิ.มิจฉาปฏิปทา และพวกมารทั้งหลาย ที่คอยขัดขวางการกระทำความดีของมนุษย์
ท่านที่ศรัทธาเลื่อมใสในบารมีของพระโพธิสัตว์กวนอิม ส่วนมากจะมีองค์พระแม่กวนอิมไว้บูชาหลายปาง และก็จะต้องมีองค์พระแม่พันมือด้วย เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข และความเจริญก้าวหน้าในชีวิตทุก ๆ ด้าน จึงมีการบูชาปางต่าง ๆ กันไปตามความศรัทธา.....แต่ละปางมีอิทธิฤทธิ์แตกต่างกันไป........ฉันได้รู้จักพระแม่พันมือเป็นครั้งแรก เพราะเหตุว่าที่บ้านเป็นสถานที่ตั้งของ "สมาคมไทย-กวนอิม,สวิตเซอร์แลนด์" ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๐๐ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ สมาคมได้รับอนุญาตและจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฏหมายของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สมาคมได้ก่อตั้งขึ้นโดยความพร้อมใจกันของกลุ่มคนไทย (ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์) ผู้นับถือบูชาพระแม่กวนอิม
.....เมื่อปี ค.ศ. ๒๐๐๒ พระแม่พันมือได้มาโปรดฉันและครอบครัว ตอนนั้นที่บ้านยังไม่มีองค์พระแม่พันมือไว้บูชา.....ตอนเช้าวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ ราว ๆ เดือนมีนาคม ขณะกำลังรับประทานอาหารเช้าร่วมกันกับสามีและลูก ๒ คน ฉันรู้สึกว่ามีอาการแน่นหน้าอกมาก และอยากจะร้องตะโกนดัง ๆ ไม่ทราบสาเหตุเพราะอะไร แต่ก็ยังไม่ร้องหรอกนะ พยายามข่มไว้ เพราะกลัวว่าคนร่วมโต๊ะอาหารจะตกใจกัน ขณะนั้นที่กำลังรับประทานอาหารอยู่นั้น ฉันไม่อยากมองหน้าใครเลย และไม่อยากพูดกับใครด้วย ทุกคนก็คงจะแปลกใจ แต่เขาไม่กล้าทัก ฉันมีความรู้สึกว่าไม่พอใจอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ทราบว่าอะไร หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เดินไปเดินมาอยู่แถว ๆ โต๊ะอาหารนั่นแหละ.....
ในที่สุดก็ปล่อยเต็มทีเลย ปล่อยความอัดอั้นที่อยู่ในอกจ๊ะ ข่มไว้ไม่ไหวแล้ว เพราะไม่ทราบว่าตนเองเป็นอะไร มันอึดอัดอยู่ข้างใน ปรกติก็ไม่เคยร้องส่งเสียงดัง ให้คนในบ้านตกอกตกใจกันมากมายเช่นนี้ แต่วันนั้นเล่นเอาคนในบ้านหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มตาม ๆ กัน ทุกคนตลึงงันงง จนอึ้งไปครู่หนึ่ง.....จากนั้นพอสิ้นเสียงร้อง ก็มีเสียงพูดเป็นภาษาจีน พูดด้วยน้ำเสียงที่ดุ น่ากลัวมากเลย เพราะตอนนั้นไม่ใช่เราแล้วนะ แถมพูดภาษาจีนคล่่องเชียว แต่น้ำเสียงแก่มาก ๆ ท่านก็พูดคนเดียว ไม่มีใครเข้าใจเลย......ฉันเองก็รู้สึกตัวครึ่ง ๆ กลาง ๆ อยู่น่ะ รู้ว่ามีจิตอื่นเข้ามาแฝงและเป็นจิตที่ดีมีพลังมากเป็นพิเศษ ท่านมาดี แต่ว่าเราสื่อกันยังไม่รู้เรื่องรู้ภาษา......ฉันไม่มีพลังที่จะต่อต้าน ไม่สามารถทำอะไรได้ เหมือนถูกมนต์สะกดไว้ทั้งร่าง พอพูดจบร่างฉันก็หมดเรี่ยวแรง ก็ล้มแผะลงนอนกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า เหมือนกับคนเป็นลมหมดสติ แต่ว่าอาการของฉันไม่หมดสติ เพียงแต่ทางกายหมดแรง ตาหลับสนิททางหูได้ยินเสียงคนพูดคุยกันตลอดเวลา สามีได้อุ้มฉันไปนอนบนเตียงในห้องนอน พอนอนได้สักครู่ ก็รู้สึกมีแรงขึ้นหน่อย จึงได้กระดกศรีษะขึ้นมา แล้วก็ส่งเสียงเป็นภาษาจีนต่ออีกรอบหนึ่ง แล้วก็หมดแรงหลับไปอีกครู่หนึ่ง พอมีแรกก็กระดกศรีษะขึ้นมาพูดอีก คราวนี้พูดยาวหน่อย แล้วก็หมดแรงหลับไปอีกนานเท่าไรไม่ทราบ.......พอรู้สึกตัวลืมตาขึ้น ก็เห็นทุกคนในบ้านนั่งพร้อมหน้ากันอยู่ในห้องนอน วันนั้นเป็นวันเสาร์จึงอยู่พร้อมหน้ากันทุกคน ดูท่าทางทุกคนยังไม่หายตื่นเต้น กับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อไม่กี่่นาทีมานี้
ทุกคนในบ้านต่างก็ดีใจ ที่เห็นฉันเป็นปรกติ แล้วแต่ละคนต่างก็แย่งกันเล่าเหตุการณ์ให้ฉันฟังว่า ฉันพูดอะไรบ้าง ทำอะไรบ้าง ฉันจำเหตุการณ์ได้ไม่หมดหรอก เพราะเหตุว่าจิตตอนนั้นไม่สามารถที่จะทำงานได้ตามปรกติ ร่างกายก็เหมือนกับบ้านที่โดนโจรระดับใหญ่ปล้น แล้วถูกโจรยึดครองชั่วขณะ ส่วนจิตก็เหมือนกับว่า เจ้าของบ้านที่โดนจับมัดด้วยเชือก ไม่มีแรงที่จะต่อสู้หรือช่วยเหลือตนเองเลย......น้องสาวฉันได้เล่าว่า เธอรู้ว่าไม่ใช่โดนผีเข้าธรรมดา ๆ เธอบอกว่าต้องเป็นพระแม่กวนอิมแน่ ๆ เลย เพราะว่าพูดแต่ภาษาจีน ท่านฟังภาษาไทยเข้าใจ แต่ตอบเป็นภาษาจีน และท่านมักจะบอกบ่อย ๆ ว่าท่านคือ "กวนยิน" คนจีนเขาจะออกเสียงว่ากวนยิน ส่วนคนไทยออกเสียงว่า "กวนอิม" ถึงจะเพี้ยนไปหน่อย แต่ก็หมายถึงสิ่งเดียวกัน ก็ไม่ถือว่าผิดแปลกอะไร....น้องสาวได้รีบไปจุดธูป ๕ ดอก เพื่ออัญเชิญพระแม่กวนอิมพันมือ ให้ออกจากร่างฉัน หลังจากที่บอกกล่าวเสร็จ ฉันรู้สึกตัวเป็นปรกติได้
.....นับตั้งแต่นั้นมา เราทุกคนรู้สึกหวาดผวาตาม ๆ กัน เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกเมื่อไร และไม่มีใครที่จะช่วยเราได้ด้วย พูดกันไม่รู้เรื่องเลย ไม่สามารถจะเดาได้เลยว่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะเหตุไร.....มีอยู่วันหนึ่งเรามีเรื่องถกเถียงและทะเลาะกันในครอบครัว ฉันรู้สึกว่ามีอาการแน่นหน้าอกอย่างกระทันหัน และไม่พอใจที่ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน.....ถ้ามีเสียงคนในบ้านพูดไม่ดี มีเสียงทะเลาะกัน ฉันก็จะร้องเสียงดังลั่นบ้านทันที แล้วก็จะมีเสียงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุมาก ๆ เป็นภาษาจีน จนทุกคนหยุดทะเลาะกันทันที......นี่ก็คงจะเป็นกลอุบายในการปราบมาร (จิตมาร) ของท่านแม่พันมืออีกแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลทันทีดีมาก ทำให้ทุกคนไม่ค่อยกล้าหาเรื่องทะเลาะกัน ช่วงนั้นลูกสาวกับลูกชายยังอยู่ในวัยประถมกับวัยมัธยม เป็นวัยที่กำลังวุ่นวาย มีเรื่องขัดแย้งกันเป็นประจำ เป็นที่รู้กันแล้วว่า ถ้ามีการเถียงหรือทะเลาะกันเมื่อไร ก็จะต้องเจอดีทุกครั้งไป บางครั้งไปเที่ยวนอกบ้าน แล้วเกิดขัดคอกันขณะสนทนาในรถ ก็เคยโดนท่านแม่ร้องดุอย่างดัง เล่นเอาคนร่วมนั่งในรถ แทบฉี่แตกเพราะความตื่นเต้นตกใจมาก
พวกเรายังสงสัยไม่หาย ว่าท่านแม่พูดอะไร ที่ท่านมาแต่ละครั้ง ท่านต้องการอะไรจากพวกเรา ด้วยความอยากรู้ จึงได้เตรียมเครื่องอัดเสียงไว้ เพื่อจะได้เอาไปให้ คนจีนเวียตนามช่วยแปลให้ ครั้งแรกตั้งใจจะให้น้องสาวเป็นคนอัดเสียงไว้ แต่พอเกิดเหตุการณ์ปรากฏจริง ๆ ดันตกใจจนลืมวิธีอัดเทป กดปุ่มอัดผิดก็เลยไม่ติด......บางวันท่านแม่ก็มาหลายเวลา บางครั้งอยู่นานบางครั้งแป๊บเดียวก็ไป เราก็เตรียมเครื่องอัดเทปไว้ จนในที่สุดก็อัดได้ดังใจ......วันนั้นท่านแม่ร้องเพลงโหยหวนน่าฟังมาก ท่านนร้องเพลงเศร้า ๆ ให้ฟังกัน ฉันคิดว่าคงจะเป็นเพลงเตือนใจเตือนสติว่า "อย่ามัวแต่ทะเลาะกันอยู่เลย สักวันหนึ่งทุกคน ก็จะต้องจากกันไปตามกาล ก็จะไม่ได้เห็นกันอีก ก็จะต้องเสียใจเสียดายเวลา ตอนมีชีวิตอยู่ร่วมกันไม่รักไม่สามัคคีกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรทะเลาะหรือขัดแย้งกันอีกต่อไป".....ท่านแม่พันมือท่านโปรดเราทั้งครอบครัว ตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่กล้าทะเลาะกันแบบเปิดเผยแบบเป็นทางการ ใครมีปัญหาขัดข้องหมองใจอะไร ก็จะมานั่งคุยกันในห้องพระแม่ทุกครั้งไป เราก็อยู่กันแบบสงบร่มเย็นมาจนถึงทุกวันนี้
.......สำหรับเรื่องพระแม่พันมือ ตอนที่ ๑ ก็ขอยุติไว้เพียงแค่นี้......โปรดติดตามตอนที่ ๒ ต่อไปนะคะ